โลหะเงินแตะจุดสูงสุดรอบ 13 ปี: เป้าหมายต่อไป $50? 

2025-06-13 | ดอลลาร์สหรัฐ , ทองคำ , ราคาโลหะเงิน , โลหะเงิน

ราคาทองคำขยับก่อน แต่ซิลเวอร์ขยับเร็ว 

ในเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว ราคาซิลเวอร์พุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 11.1% และตอนนี้กำลังซื้อขายที่ระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี จนกลายเป็นที่จับตามองของตลาด ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนระยะยาวหรือนักเทรดสายเก็งกำไร ทุกคนต่างจับตาดูระดับราคาที่ไม่ได้เห็นมาตั้งแต่ช่วงพีคของปี 2554 

สิ่งที่นักเทรดอยากรู้คือ: นี่คือจุดเริ่มต้นของการเบรกทะลุครั้งประวัติศาสตร์ใช่ไหม? หรือแค่เป็นอีกหนึ่งรอบที่ราคาจะ ไปไม่สุดแล้วอ่อนตัวลง ที่แนวต้านอีกครั้ง? 

ท่ามกลางกระแสข่าวครึกโครมของ AI และคริปโต ความแข็งแกร่งของซิลเวอร์กำลังบอกสัญญาณบางอย่างที่ลึกกว่านั้น 

ในอดีต ซิลเวอร์เคยเป็นสินทรัพย์ที่ใช้เก็บมูลค่า เช่นเดียวกับทองคำ เป็นโลหะที่มีการใช้ในอุตสาหกรรม และยังเป็น เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน เมื่อซิลเวอร์เคลื่อนไหว มันไม่ได้ขยับเบา ๆ 

หากย้อนไปปี 2554 ราคาซิลเวอร์พุ่งจาก $35 ไปเกือบ $50 ภายในเวลาเพียง 6 สัปดาห์ หรือคิดเป็นการขยับขึ้นกว่า 40% ในไม่ถึงสองเดือน เป็นรอบที่พุ่งแรงและรวดเร็วจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัว และความต้องการในสินทรัพย์ปลอดภัย 

วันนี้เรากำลังเห็นรูปแบบที่คล้ายกันอีกครั้ง 

  • ผลตอบแทนแท้จริงอยู่ภายใต้แรงกดดัน 
  • ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 
  • หนี้ทั่วโลกพุ่งสูง 
  • นักลงทุนเริ่มหันกลับมาหาสินทรัพย์จริงอีกครั้ง 

และซิลเวอร์ก็กำลังตอบรับต่อสัญญาณนั้น 

กราฟด้านบนกำลังส่งสัญญาณเชิงเทคนิคที่น่าสนใจ โดยแสดงให้เห็นว่าราคาซิลเวอร์กำลังสร้างรูปแบบ “ถ้วยพร้อมหูจับ” ซึ่งมักเป็นสัญญาณขาขึ้นก่อนการเบรกทะลุครั้งใหญ่ 

รูปแบบนี้คล้ายกับที่ทองคำเคยทำไว้ก่อนจะทะลุระดับ $2,000 

แนวต้านแนวนอนบริเวณ $44–$50 ได้กลายเป็นเพดานราคาของซิลเวอร์มายาวนานกว่าสี่ทศวรรษ โดยเคยเกิดขึ้นในปี 2523, อีกครั้งในปี 2554 และตอนนี้ในปี 2468 ซิลเวอร์กำลังกลับมาทดสอบโซนดังกล่าวอีกครั้ง 

หากสามารถเบรกเหนือ $50 ได้อย่างชัดเจน จะถือเป็นการสร้างจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล และอาจเปิดประตูสู่รอบตลาดกระทิงระยะยาวรอบใหม่ 

ระยะสะสมของ “หูจับ” อาจสิ้นสุดไปแล้ว และสิ่งที่จะตามมาอาจรุนแรงและน่าตื่นเต้น 

กราฟด้านบนแสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาซิลเวอร์ในช่วงเวลา 10 ปี โดยเน้นไปที่สองรอบตลาดกระทิงใหญ่ ได้แก่ ช่วงปี 1970s C.E. และ 2000s C.E. ซึ่งในแต่ละรอบราคาซิลเวอร์พุ่งแรงจนจากสินค้าที่ถูกลืม กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งอีกครั้ง 

ตอนนี้เราเริ่มเห็นสัญญาณเบื้องต้นของรอบกระทิงรอบที่สาม 

ผลตอบแทนเฉลี่ยของซิลเวอร์กลับมาเป็นบวกอีกครั้ง และแรงส่งกำลังเร่งตัว จากมุมมองมหภาค การปรับขึ้นรอบนี้ดูเหมือนจะมีพลังต่อเนื่อง 

ย้อนกลับไปดูตัวอย่างในอดีต: 

ในปี 2554 ราคาซิลเวอร์ใช้เวลาเพียง 6 สัปดาห์ในการพุ่งจาก $35 ไปที่ $50 

ด้วยราคาซิลเวอร์ที่ปัจจุบันลอยตัวอยู่แถว $36–$37 การปรับขึ้นระดับนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริง โดยเฉพาะถ้าได้ปัจจัยเสริมอย่างค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อน เงินเฟ้อที่พุ่ง หรือแรงสั่นสะเทือนทางภูมิรัฐศาสตร์ 

ซิลเวอร์ไม่ใช่แค่เหรียญโลหะสวยงามหรือสินค้าตามความต้องการภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่มันสะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจโลก และตอนนี้สถานการณ์ก็น่าสนใจไม่น้อย: 

  • ธนาคารกลางกำลังชะงัก: เงินเฟ้อยังไม่ลด แต่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว มีแนวโน้มว่าอัตราดอกเบี้ยจะถูกลดลง ซึ่งมักทำให้ค่าเงินอ่อนตัวและหนุนราคาสินทรัพย์อย่างทองคำและซิลเวอร์ 
  • ค่าเงินดอลลาร์กำลังอ่อน: อย่างที่วิเคราะห์ไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อนในบทความ USD ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกำลังเผชิญแรงกดดันเชิงโครงสร้าง ซึ่งในอดีตเคยส่งผลบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อทองคำและซิลเวอร์ 
  • ดีมานด์ทั้งภาคอุตสาหกรรมและการเงิน: ซิลเวอร์มีบทบาทสองด้านในตลาด ซิลเวอร์ถูกใช้ทั้งในแผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะเดียวกันก็ถูกถือครองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นเดียวกับทองคำ บทบาทคู่ขนานนี้ทำให้ซิลเวอร์มีความโดดเด่นและแตกต่างจากโลหะมีค่าอื่นๆ 

จากมุมมองเชิงเทคนิค ประวัติศาสตร์ และภาพรวมเศรษฐกิจระดับมหภาค ราคา $50 ได้กลับมาอยู่ในบทสนทนาอีกครั้ง 

แต่อย่าลืมว่า ซิลเวอร์เป็นสินทรัพย์ที่ผันผวนสูง มีโอกาสเหวี่ยงแรงทั้งขึ้นและลง ไม่ได้พุ่งขึ้นเป็นเส้นตรง และระหว่างทางก็อาจมีการย่อตัวอย่างรุนแรงได้ 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสนับสนุนสำหรับการเบรกทะลุแนวต้านยังคงชัดเจน: 

  • การทดสอบแนวต้านระยะยาวหลายสิบปี 
  • รูปแบบกราฟขาขึ้นในระยะยาว 
  • ผลการเคลื่อนไหวที่แข็งแกร่งในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน 
  • ภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคที่เอื้ออำนวย 
  • มีแบบอย่างจากประวัติศาสตร์ที่เคยพุ่งแรงมาแล้ว 

ระดับราคา $50 ไม่ได้เป็นเพียงแค่เป้าหมายด้านตัวเลขเท่านั้น แต่มันคือ “จุดเปลี่ยนทางจิตวิทยา” ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญที่กินระยะเวลานานหลายสิบปี หากสามารถทะลุผ่านไปได้ อาจทำให้ซิลเวอร์เข้าสู่การปรับฐานราคาใหม่ทั้งระบบ 

  • ราคาซิลเวอร์พุ่งขึ้น 11.1% ในเดือนมิถุนายน ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 13 ปีนับตั้งแต่ปี 2554 
  • การวิเคราะห์ทางเทคนิคชี้ถึงรูปแบบกราฟถ้วยและหูจับ ซึ่งบ่งชี้แนวโน้มขาขึ้นระยะยาว 
  • ข้อมูลในอดีตยืนยันว่าซิลเวอร์สามารถเคลื่อนไหวแรงได้ เช่นเดียวกับในปี 2554 
  • ปัจจัยมหภาค เช่น ค่าเงินดอลลาร์อ่อนและการปรับลดดอกเบี้ย ช่วยหนุนแนวโน้มตลาด 
  • หากทะลุแนวต้าน $50 ได้ จะกลายเป็นจุดสูงสุดใหม่ และอาจเปิดตลาดกระทิงรอบใหญ่ในระยะยาว 

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนสายยาวหรือเทรดเดอร์สายสั้น ตอนนี้ซิลเวอร์ได้กลับมาอยู่ในเรดาร์อีกครั้ง 

จับตาแนวต้านให้ดี ติดตามโมเมนตัมอย่างใกล้ชิด เคลื่อนไหวอย่างคล่องตัว และอย่าลืมบริหารความเสี่ยงของคุณให้ดี 

เพราะหากการเบรกทะลุแนวต้านนี้ “ยืนได้” อย่างมั่นคง นี่อาจเป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของตลาดก็เป็นได้ 


การเปิดเผยความเสี่ยง 
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน เนื่องจากความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ อาจเกิดการขาดทุนมากกว่าการลงทุนเริ่มต้นของท่านในระยะเวลาอันสั้น    
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายกับเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ก่อนทำธุรกรรมกับเรา หากท่านไม่เข้าใจความเสี่ยงดังที่ได้อธิบายไว้ในนี้ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ   
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ คำเชิญ หรือการเสนอขายหรือซื้อเครื่องมือทางการเงินใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต Doo Prime และบริษัทในเครือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้หรือลงทุนตามข้อมูลดังกล่าว  
กลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ควรใช้หรือพิจารณาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายหรือคำเชิญชวนให้เข้าทำธุรกรรมใดๆ Doo Prime ไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของรายงานนี้และปฏิเสธความรับผิดใดๆ ต่อความเสียหายที่เป็นผลมาจากการใช้รายงานนี้ คุณไม่ควรพึ่งพารายงานนี้แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อทดแทนการตัดสินใจของคุณเอง ตลาดมีความเสี่ยงเสมอ และการลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง 

วิเคราะห์ตลาดเชิงลึกIconBrandElement

article-thumbnail

2025-07-24 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

หุ้น AI แพงเกินไปแล้วหรือเพิ่งเริ่มต้นกันแน่? 

หุ้น AI กลายเป็นเป้าหมายหลักของตลาดมานานกว่าหนึ่งปี  จากการที่ Nvidia ทำสถิติแตะมูลค่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ ไปจนถึงการประกาศด้าน AI ครั้งใหญ่ของ Tesla ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาด นักลงทุนบน Wall Street ดูเหมือนจะยังไม่อิ่มตัว แม้แต่หุ้นอย่าง AMD และ IBM ที่เคยตามหลัง ก็ยังได้อานิสงส์จากกระแสนี้เช่นกัน  แต่คำถามที่นักลงทุนมือโปรเริ่มถามคือ: นี่คือจุดเริ่มต้นของยุค AI จริงๆ หรือเรากำลังเผชิญฟองสบู่แบบยุคดอทคอมอีกครั้ง?  เมื่อเรื่องราวในตลาดดังเกินไป และราคาขยับขึ้นแบบก้าวกระโดด ก็ถึงเวลาที่ต้องแยกแยะระหว่างความจริงกับกระแส  มาลองเจาะดูทั้งมุมมองฝั่งกระทิง ความกังวลเรื่องฟองสบู่ และสัญญาณที่นักเทรดทุกคนควรจับตาในตอนนี้  กระแสหุ้น AI ไม่ใช่เรื่องหลอก ต้องชัดเจนก่อนว่านี่ไม่ใช่ฟองสบู่แบบมีม AI ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่าเพื่อปั่นหุ้น เงินก้อนจริงๆ กำลังไหลเข้าสู่ตลาด  บริษัทยักษ์ใหญ่ใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์กับชิป ศูนย์ข้อมูล และจ้างวิศวกรกันเหมือนย้อนกลับไปปี 1999 แค่ Nvidia เพียงรายเดียวก็ทำรายได้จากศูนย์ข้อมูลกว่า 26,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ผ่านมา โตสามหลักเมื่อเทียบกับปีก่อน  นี่คือความต้องการที่มีอยู่จริง Microsoft กำลังปล่อย […]

article-thumbnail

2025-07-17 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมบิตคอยน์ถึงกำลังพุ่งขึ้น และอะไรคือปัจจัยเบื้องหลัง 

บิตคอยน์ ทำสถิติใหม่อีกครั้ง พุ่งทะลุ 123,000 ดอลลาร์ ดึงเหล่านักเทรดให้กลับเข้าสู่โหมดเสี่ยงเต็มพิกัด แต่คำถามคือ นี่เป็นเพียงอีกหนึ่งรอบของกระแสเก็งกำไร หรือมีอะไรเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างแล้วจริงๆ?  ถ้ามองลึกลงไป จะเห็นว่ามีพลังขับเคลื่อนสำคัญสองอย่างที่กำลังเกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งหลายคนยังไม่ทันเชื่อมโยงจุดเหล่านี้เข้าด้วยกัน  สิ่งแรกกำลังคลี่คลายอยู่ในวอชิงตัน ขณะที่อีกกระแสหนึ่งก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ ในระบบการเงินโลก โดยส่งสัญญาณล่วงหน้าแบบเดียวกับที่เคยหนุนให้บิตคอยน์พุ่งแรงมาแล้วหลายรอบ  และเมื่อรวมทั้งสองสิ่งนี้เข้าด้วยกัน ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทำไมบิตคอยน์ถึงกำลังไต่ระดับขึ้น และทำไมรอบนี้อาจไม่ใช่แค่การพุ่งขึ้นชั่วคราวเหมือนที่ผ่านมา  กฎหมายคริปโตฉบับใหม่เปลี่ยนเกมทั้งกระดาน  ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นักลงทุนบิตคอยน์ต้องเผชิญกับคำถามคาใจหนึ่งที่ยังไร้คำตอบจากฝั่งอเมริกา: สหรัฐฯ เอาจริงเอาจังกับคริปโตแค่ไหนกันแน่?  ตั้งแต่กรณีที่ SEC ไล่จัดการกับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนต่างๆ ไปจนถึงการถกเถียงว่า ETH หรือ stablecoin ควรถูกจัดเป็นหลักทรัพย์หรือไม่ และการขาดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนโดยสิ้นเชิง ทำให้เงินทุนจากสถาบันส่วนใหญ่มักเลือกอยู่เฉยๆ แต่ตอนนี้สถานการณ์กำลังเปลี่ยนไปแล้ว  สภาผู้แทนราษฎรกำลังผลักดันกฎหมายคริปโตชุดใหญ่หลายฉบับ โดยเฉพาะร่างกฎหมาย Financial Innovation and Technology for the 21st Century Act ที่ถูกออกแบบมาเพื่อระบุให้ชัดเจนว่าใครมีหน้าที่ดูแลอะไร มอบอำนาจกำกับดูแลบิตคอยน์และคริปโตประเภทอื่นให้กับ CFTC มากขึ้น พร้อมทั้งวางกรอบการขอใบอนุญาตระดับชาติให้กับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนและ stablecoin อย่างเป็นทางการ  ทำไมบิตคอยน์ถึงชอบร่างกฎหมายคริปโต  บิตคอยน์ไม่ได้พุ่งขึ้นเพราะมีร่างกฎหมายบางฉบับที่อาจจะผ่าน […]

article-thumbnail

2025-07-14 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

พรรคอเมริกาของ Musk ส่งสัญญาณบวกหรือลบต่อหุ้น TSLA? 

อีลอน มัสก์ กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เรื่องจรวดหรือหุ่นยนต์แท็กซี่ แต่เป็นการเปิดตัวขบวนการทางการเมืองของเขาเองในชื่อว่า “พรรคอเมริกา”  ในมุมแรกอาจดูเหมือนโปรเจกต์ส่วนตัวแปลกๆ ของมหาเศรษฐีอีกชิ้นหนึ่ง แต่ถ้าสังเกตให้ดี มันอาจกลายเป็นหมากตัวใหม่ที่ส่งผลต่อทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจในอนาคต และอาจเป็นแรงหนุนต่อหุ้น Tesla (TSLA) ในแบบที่นักลงทุน Wall Street หลายคนยังมองไม่เห็น  พรรคอเมริกาคืออะไร?  แล้วจริงๆ พรรคอเมริกาคืออะไร? และทำไมมัสก์ถึงสร้างมันขึ้นมา?  พูดง่ายๆ นี่คือคำตอบของอีลอน มัสก์ต่อระบบที่เขามองว่า “ล้มเหลว” พรรคอเมริกาเป็นขบวนการทางการเมืองใหม่ ที่ตั้งใจมาท้าทายระบบการผูกขาดของสองพรรคใหญ่ในสหรัฐฯ มัสก์ระบุว่า พรรคนี้เกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมเสรีภาพในการพูด เปิดพื้นที่ให้การถกเถียงทางการเมืองกว้างขึ้น และอาจมีบทบาทในการกำหนดนโยบายด้านภาษีและกฎระเบียบที่กระทบต่อธุรกิจของเขาโดยตรง  ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายเกินตัว โค้ดภาษีที่ไม่เป็นธรรม หรือกฎระเบียบที่ขัดขวางเทคโนโลยีใหม่ๆ มัสก์ต้องการลุกขึ้นมาท้าทายทั้งหมดนี้ และสร้างระบบที่ให้ “ไอเดียที่ดีที่สุด” ชนะ ไม่ใช่ “คนที่วิ่งล็อบบี้เก่งที่สุด”  แต่มันยังมีอีกชั้นหนึ่ง พรรคอเมริกาดูเหมือนจะเป็นกลยุทธ์ตอบโต้ของมัสก์ต่อภัยคุกคามอย่างข้อเสนอของทรัมป์ในการเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าจากยุโรป ซึ่งอาจกระทบต่อโรงงาน Tesla ในเบอร์ลิน การมีพรรคการเมืองของตัวเอง ทำให้มัสก์ไม่ได้แค่ตั้งรับ แต่รุกกลับเต็มที่ ตั้งเป้าสร้างบทสนทนาใหม่ในสังคม และผลักดันนโยบายที่จะทำให้สหรัฐฯ แข่งขันได้ในเทคโนโลยี พลังงาน และอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง  พูดให้เข้าใจง่ายๆ: พรรคอเมริกาคือวิธีของมัสก์ในการ […]